เกือบจะถึงหน้าร้อนแล้วนะคะสาวๆ … ยิ่งช่วงนี้แดดเริ่มแรงขึ้นทุกวันๆ สาวๆ หลายคนต้องเรียกหาตัวช่วยสำคัญอย่าง “ครีมกันแดด” มาปกป้องผิวสาวไม่ให้หมองคล้ำ แต่ปัญหาอย่างหนึ่งสำหรับสาวๆ ก็คือ ครีมกันแดดไม่สามารถป้องกันผิวตามระยะเวลาที่ระบุไว้บนฉลาก
อย่างเช่น SPF 10 ควรจะสามารถปกป้องผิวหนังจากแดดเผาได้นานเป็นระยะเวลา 10 เท่าเมื่อเทียบกับผิวหนังที่โดนแดดโดยไม่ได้ทาครีมกันแดด ซึ่งโดยทั่วไปผิวคนไทยถ้าไม่ได้ทาครีมกันแดดเลยและไปยืนตากแดด จะเริ่มเห็นผิวหนังมีสีแดงภายในระยะเวลาเพียง 10-15 นาที ดังนั้นหากทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 10 ควรจะป้องกันผิวหนังจากแดดได้นานถึง 100-150นาที แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้ผลเช่นนั้น …
ซึ่งสาเหตุที่ครีมกันแดดไม่สามารถป้องกันผิวได้ตามระยะเวลาที่ระบุไว้บนฉลากนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างค่ะ ซึ่งแต่ละปัจจัยนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญที่สาวๆ ควรรู้ไว้ค่ะ
>>> วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้องและได้ผล สาวๆ จะต้องทาครีมหนาเพื่อปกปิดผิวหนังทุกรูขุมขน ซึ่งเป็นวิธีการที่ผ่านการทดสอบในห้องทดลองจากนักวิทยาศาสตร์ แต่โดยทั่วไปแล้วสาวๆ มักจะนิยมทาเพียงเบาบางเพราะว่าไม่ต้องการความเหนียวเหนอะหนะ ทำให้รังสีดวงอาทิตย์สามารถกระทบและทะลุเข้าสู่ผิวหนังได้บางส่วน นักวิชาการจึงแนะนำว่าหากต้องการทาแล้วได้ผลควรทาบ่อยๆ ทุก 1-2 ชั่วโมง
>>> ภายหลังจากการทาครีมกันแดด สาวๆ มักจะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกกำลังกายด้วยการตีแบด ว่ายน้ำ วิ่ง เดิน หรืออื่นๆ ทำให้เหงื่อออกทางผิวหนังและแน่นอนครีมกันแดดจะถูกเหงื่อทำให้ละลายออกโดยง่าย ทำให้ประสิทธิภาพของครีมกันแดดลดลงหรือหมดไปในบางกรณี
>>> สารกรองรังสียูวีที่เป็นองค์ประกอบในครีมกันแดดหลายชนิดไม่คงตัว และจะสลายตัวเมื่อโดนความร้อน ทำให้ครีมกันแดดเสื่อมประสิทธิภาพไป ครีมกันแดดบางยี่ห้ออาจเสื่อมไปตั้งแต่ยังไม่ทันได้ใช้ก็มี ในกรณีที่ผู้ขายเก็บไว้ในร้านค้าที่ร้อนหรือผู้ซื้อไปเก็บไว้ในที่ ร้อนก็สามารถทำให้สารกันแดดเสื่อมประสิทธิภาพก่อนเปิดใช้ได้เช่นกันค่ะ
ดังนั้นถ้าสาวๆ จะเลือกซื้อครีมกันแดดจึงควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือซึ่งสินค้าจะถูกเก็บรักษาใน สถานที่ปรับอากาศ และดูรายละเอียดฉลากถึงวันเดือนปีที่ผลิตว่าเก่าเก็บหรือไม่ เพราะนอกจากครีมกันแดดจะหมดประสิทธิภาพแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดพิษระคายเคืองต่อผิวหนังได้อีกด้วยค่ะ
จะทาครีมกันแดดครั้งต่อไปยังไงสาวๆ ก็อย่าลืมนึกถึงปัจจัยเหล่านี้ด้วยนะคะ … อยากจะปกป้องผิวซักทีก็ต้องรู้จักวิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้องด้วยนะคะ
ที่มา : www.dek-d.com